03 สิงหาคม 2552

แรงบันดาลใจของ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์

พลังแห่งแรงบันดาลใจ
ดารานักแสดง เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ กับ
อำไพ ยอดบุตร แม่ของอดีตพระเอก อโนเชาว์ ยอดบุตร

ดิฉันเป็นอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยในโครงการ "บลูแองเจิล" ของโรงพยาบาลรามาธิบดีมากว่าสามปี เพราะเห็นตัวอย่างจากคุณแม่ของอโนเชาว์ ยอดบุตร เพื่อนดาราที่ประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ดิฉันเป็นนางเอกที่แสดงคู่กันและประสบอุบัติเหตุในคราวนั้นด้วย แต่ไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง

ถ้ามีเวลาว่างจากงาน ดิฉันจะไปเยี่ยมคุณแม่ ให้กำลังใจและช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายมาโดยตลอด เป็นเวลานานกว่า 25 ปีที่อโนเชาว์นอนป่วยอยู่ เห็นคุณแม่ดูแลลูกชายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ดิฉันรู้สึกประทับใจมาก นับเป็นปาฏิหาริย์จากพลังรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ผู้ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ส่งแรงใจให้เขาต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปแม้สมองและร่างกายไม่รับรู้

อโนเชาว์เป็นเพื่อนร่วมงาน ดิฉันไม่รู้จักเป็นส่วนตัว แต่ไปเยี่ยมเยียนและพูดปลอบโยนเพื่อช่วยคลายทุกข์ให้เขาเสมอ เพราะคิดว่าการให้ความช่วยเหลือขณะมีชีวิตอยู่ย่อมดีกว่าจากไปแล้ว

สี่ปีที่แล้ว ดิฉันป่วยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลรามาฯ ช่วงนอนรักษาตัวอยู่สองเดือนมีเพื่อนๆและประชาชนมาเยี่ยมให้กำลังใจก็รู้สึกเหมือนเกิดใหม่และตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะต้องทำงานตอบแทนสังคม เมื่อเราเป็นคนของประชาชนก็ต้องช่วยสังคม เกิดมาต้องไม่เห็นแก่ตัว

ต่อมา ดิฉันทราบว่าทางโรงพยาบาลเปิดหน่วยงานผู้ป่วยสัมพันธ์และรับคนสนใจอาสาทำงาน จึงรีบขอเข้ามาเป็นอาสาสมัครบลูแองเจิลทันที ก่อนทำหน้าที่ปลอบใจให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นที่เข้ามาแผนกฉุกเฉิน ดิฉันต้องเข้ารับการอบรมวิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วยก่อน ตอนแรก ทางแพทย์ไม่แน่ใจว่าดิฉันจะทำงานนี้ได้ดีพอ เพราะเห็นว่าเป็นงานอยู่กับคนป่วยคนบาดเจ็บเลือดไหลและอยู่ในสภาพแวดล้อมโรงพยาบาลรัฐบาลซึ่งไม่สะดวกสบายเหมือนเอกชน โชคดีที่ดิฉันไม่แพ้กลิ่นยาหรือกลัวเลือดก็ทำหน้าที่นี้มาได้นานเกือบสามปี

ทุกวันเกิดและยามว่างจากงาน ดิฉันจะเข้าทำหน้าที่ในแผนกฉุกเฉินตั้งแต่ช่วงเย็นจนดึกดื่นหรือเกือบสว่าง ช่วยเหลือโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน ปกติ ดิฉันเป็นคนร่าเริงและมีรอยยิ้ม ก็ใช้สิ่งที่มีนี้ให้เกิดประโยชน์ เมื่อมีคนป่วยร้องโอดโอยหรือแสดงอาการเจ็บปวด ดิฉันจะเข้าไปกล่าวสวัสดีและพูดปลอบใจถามถึงอาการว่าเป็นอย่างไร ดิฉันรู้นะคะว่าคุณเจ็บแต่ก็ต้องอดทน ทำใจให้สบายเพราะตอนนี้อยู่ในมือคุณหมอแล้ว ได้รับการรักษาแล้วอีกไม่นานก็จะหายเป็นปกติ บางคนไม่ชอบดาราก็ทำหน้าบึ้งเข้าใส่ ดิฉันจะยิ้มเข้าไปหาแล้วบอกว่ายิ้มหน่อยสิคะ อดไม่ได้ก็ต้องยิ้มตอบกลับมาทุกคน

ดิฉันอุทิศตัวให้กับงานนี้ ช่วยให้คนป่วยมีกำลังใจและมีความสุขมากขึ้น พอเห็นเขาสุขภาพดีขึ้นก็กลับได้รับความสุขใจกลับคืนมามากกว่าเดิม ทำให้ตัวเองสุขภาพจิตดีและสุขภาพกายก็ดีมากขึ้นด้วย ดิฉันเชื่อมั่นว่าความสุขที่มอบออกไปมากเท่าไร ยิ่งได้ตอบกลับมากขึ้นหลายเท่า และคนเราต้องทำแต่ละวินาทีให้ดีที่สุด

โดย คุณานันท์ แสงอาทิตย์ http://www.readersdigest.co.th